จีนพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วและยิ่งใหญ่ ผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสหรัฐอเมริกา คนจีนมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ชั่วโมงนี้พ่อแม่ผู้ปกครองคนไทยถ้าจะส่งเสริมให้ลูกหลานเรียนภาษาที่ 3 ก็คงมีเกินครึ่งที่เลือกให้เรียนภาษาจีนพร้อมกับเรียนรู้วัฒนธรรมจีนไปด้วย
วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมขอเล่าถึง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพมหานคร ให้ฟังกัน ศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2555 อยู่บนถนนเทียมร่วมมิตร เป็นศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีนแห่งแรกที่ก่อตั้งในภูมิภาคอาเซียน วัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมจีน กระชับและแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างจีนกับไทย และส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประชาชนและรัฐบาลทั้งสองประเทศ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ทรงพระอักษรคำว่า จงกั๋วเหวินฮว่าจงซิน (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน) และคำว่า ย่วนวู่หวูเซิง (ทำงานเสียสละโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน) แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหวังที่มีต่อศูนย์วัฒนธรรมฯ และมิตรภาพระหว่างประชาชนไทย-จีนที่มีมาช้านาน
5 ปีมานี้ ศูนย์วัฒนธรรมฯไม่เพียงเปิดสอนภาษา ดนตรี และศิลปะ ให้บริการข้อมูลสารสนเทศ ทั้งยังได้จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมประเภทต่างๆมากว่า 600 ครั้ง เช่น งานเทศกาลวัฒนธรรมจีน งานวัดเมี่ยวฮุ่ย งานเทศกาลภาพยนตร์จีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานตรุษจีน งานคาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทยจีน
ในโอกาสที่จะครบรอบ 5 ปีการก่อตั้งศูนย์วัฒนธรรม ทางศูนย์จะจัดนิทรรศการภาพ ที่แสดงถึงความสำเร็จในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของจีนกับไทย และตั้งแต่วันที่ 18-21 พ.ย. จะมี การแสดงของคณะนักแสดงจากโรงละครเมืองชิงเต่า มณฑลชานตง และ คอนเสิร์ตดนตรีร่วมสมัย
สำหรับเป้าหมายและแนวทางการทำงานในอนาคต หลัน ซู่ หง ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมฯ บอกว่า จะยึดเจตนารมณ์เดิม ยึดมั่นต่อความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรม และดำเนินตามนโยบายของ สี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่แห่งพรรคคอมมิวนิสต์ โดยมุ่งสืบสาน พัฒนา และก้าวไปข้างหน้า สร้างสรรค์วิธีการทำงานใหม่ ขยายช่องทางการแลกเปลี่ยน เพิ่มการทำงานทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง ทำให้วัฒนธรรมจีนเข้าสู่วงการต่างๆของสังคมไทย อุทิศพลังทางวัฒนธรรมให้แก่สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน
ได้เห็นถึงเจตนารมณ์อันแน่วแน่อย่างนี้แล้วทำให้รู้สึกปลื้มปริ่มไปด้วย ผมขอแนะนำถ้าใครอยากเรียนรู้ภาษา ดนตรี และวัฒนธรรมจีน ลองติดต่อไปที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ เพื่อจะได้ศึกษาเรียนรู้จากต้นตำรับขนานแท้
ไหนๆก็เขียนเกี่ยวกับเรื่องของจีนแล้ว ผมขอส่งท้ายเล่าถึงโรงแรมใหม่ในเครือใบหยก โรงแรมแบ็งคอก มิดทาวน์ Bangkok Midtown Hotel เน้นรับ ลูกค้าทัวร์จีน เป็นหลัก แต่เป็น ทัวร์จีนคุณภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สร้างรายได้ให้การท่องเที่ยวอย่างมาก
โรงแรมแบ็งคอก มิดทาวน์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนถนนพระราม 6 ใกล้แยกอุรุพงษ์ อีกไม่นานนักจะได้ฤกษ์เปิดตัว ด้านหน้าโรงแรมตกแต่งด้วยดีไซน์ โมบายดอกรัก ผสมความเป็นไทยกับความทันสมัย ไฮไลต์อีกอย่างอยู่ที่ห้องอาหารชั้น 6 ทำพื้นเป็นกระจกมองทะลุลงมาถึงชั้นล่าง เป็นที่นั่งแฮงเอาต์สบายๆ
โรงแรมของ คุณพันธ์เลิศ ใบหยก ล้วนแต่มีเอกลักษณ์ โรงแรมใบหยก 1 และ โรงแรมใบหยก 2 เคยทำสถิติเป็นตึกสูงที่สุดในประเทศไทย โรงแรมหัวช้างเฮอริเทจ อยู่เชิงสะพานหัวช้าง ก็ได้ รางวัลสถาปัตยกรรมที่สมควรเผยแพร่ คัดเลือกโดย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี 2558 (รอบการคัดเลือก 10 ปี/ครั้ง) ส่วนน้องใหม่โรงแรมแบ็งคอก มิดทาวน์ ใช้คอนเซปต์จับลูกค้าทัวร์จีน